21.00 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน รอยัล จอร์แดน (Royal Jordanian) ชั้น 4 แถว ประตู 7-10 แถว เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
00.22 น. เหินฟ้าสู่กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน โดยสายการบิน (Royal Jordanian) เที่ยวบินที่ RJ 181
เชิญท่านพักผ่อนอิสระบนเครื่องทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง ..Royal Jordanian ยังเป็นสมาชิกของอาหรับแอร์ แคริเออร์ ออร์แกไนเซชั่น และพันธมิตรสายการบินวันเวิลด์ (เสริ์ฟอาหารบนเครื่อง 2ครั้ง มื้อดึก/เช้า)
05.50 น. (เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึง สนามบินนานาชาติควีนอาเลียเมืองอัมมาน (QUEEN ALIA Amman) เมืองหลวงของประเทศจอร์แดนหรือราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดนศูนย์กลางแห่งตะวันออกกลางที่มีการผสมผสานความเก่าแก่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันได้อย่างลงตัว หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรและรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ***(เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง)
“กรุงอัมมาน” เป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางเศรษฐกิจของของประเทศจอร์แดนและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจอร์แดน มีประชากรประมาณ 3 ล้านกว่าคนนำท่านชมบรรยากาศของเมืองหลวงพร้อมกับช๊อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านสู่เมืองเครัค (Kerak Castle) ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบสูงขนาดใหญ่ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามของหุบเขาทั้งสองข้างทางจนได้ฉายาเป็น“แกรนด์แคนยอนแห่งจอร์แดน” ชม ปราสาทเครัคแห่งครูเสด (KERAK) สร้างในปี ค.ศ. 1142 โดย ผู้ปกครองเมือง PAYEN LE BOUTIELLER ในอดีตเป็นเมืองศูนย์กลางขนาดใหญ่ของนักรบครูเสด และสร้างเพื่อควบคุมเส้นทางทั้งทางเหนือและใต้และใช้ในการต่อสู้ในสงครามครูเสดกับกองทัพมุสลิมจนกระทั่งในปี ค.ศ. 1187 ได้ถูกเข้าทำลายโดยนักรบมุสลิมภายใต้การนำทัพของซาลาดิน (SALADIN)
เที่ยง รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองเพตรา นครเพตรา มรดกโลกในหุบผา อารยธรรมโบราณแห่งจอร์แดน
จอร์แดน (Jordan) ประเทศที่พื้นที่กว่า 2 ใน 3 ถูกทะเลทรายปกคลุมจนแห้งแล้ง และยังเป็นที่ตั้งของทะเลที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ อาศัยอยู่ได้อย่าง Dead Sea อีกด้วย ถึงอย่างนั้นดินแดนแห่งนี้ก็อุดมไปด้วยร่องรอยอารยธรรมโบราณมากมาย ดึงดูดให้ผู้ที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของเมืองทะเลทรายเดินทางมาเที่ยวอย่างไม่ขาดสายในแต่ละปี โดยเฉพาะที่ เพตรา Petra นครหินแกะสลักโบราณ ที่หายสาบสูญไปจากแผนที่มานานนับพันปีแห่งนี้ นครเปตรา หรือ เพตรา ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาล โดยชาวนาบาเทียน และได้กลายมาเป็นนครแห่งการค้าขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นตลาด ซื้อสินค้าสำคัญที่สุดของโลกตะวันออก ที่ต่อมาถูกละทิ้งเป็นเวลานานกว่า 700 ปี จนเมื่อมีนักสำรวจชาวสวิตเซอร์แลนด์ โยฮันน์ ลุควิก บวร์กฮาร์ท เดินทางผ่านมาพบ เห็นเข้าเมื่อปี พ.ศ. 2355
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารในโรงแรม (บุฟเฟต์)
เข้าพักโรงแรมระดับสี่ดาวมาตรฐานท้องถิ่น ณ เมืองเพตรา PETRA CASTLE HOTEL หรือเทียบเท่า
06.30 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
07.30 น. นำท่านเข้าชม เพตรา (Petra) 1 ในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก (ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกปี ค.ศ. 1985 และ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของแห่งโลกใหม่ จากการตัดสินโดยการโหวตจากบุคคลนับล้านทั่วโลกในวันมหัศจรรย์ 07/ 07/ 07)
นครเพตรา (Petra) มหานครศิลาที่หายสาบสูญไปนานกว่า 700 ปี ซ่อนตัวอย่างลึกลับในหุบเขาวาดี มูซา หรือหุบเขาโมเสส แรกเริ่มที่นี่เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชาวเอโดไมท์ตั้งแต่สมัย 1,000 ปีก่อนคริสตกาล แต่กลุ่มชนที่สร้างเมืองเพตราขึ้นมาคือชาวนาบาเธียน (Nabataeans) ซึ่งเป็นชนเผ่าเร่ร่อนแต่เดิม ได้เริ่มลงหลักปักฐาน สร้างที่พักอาศัย และเริ่มสกัดหินผาเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยมหานครสีดอกกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาแห่งโมเสส (WADI MUSA) มีประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายพันปีเคยเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยทั้งชาวอีโดไมท์ จวบจนกระทั่งถึงยุครุ่งเรืองเฟื่องฟูในการเข้ามาครอบครองดินแดนของชาว อาหรับเผ่าเร่ร่อน นาบาเทียน ในช่วงระหว่าง 100 ปี ก่อนคริสตกาล – ปี ค.ศ 100 และได้เข้ามาสร้างอาณาจักร, บ้านเมือง ฯลฯ จนกระทั่งในปีค.ศ. 106 นครแห่งนี้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรโรมันที่นำโดยกษัตริย์ทราจัน และได้ผนึกเมืองแห่งนี้ให้เป็นหนึ่งในอาณาจักรโรมันแห่งแหลมอาระเบียตะวันออก นครเพตราถึงคราวล่มสลายเมื่อหมดยุคของอาณาจักรโรมันทำให้ชาวเมืองนั้นละทิ้งบ้านเมืองจากกันไปหมดทิ้งให้เมืองแห่งนี้รกร้างไปพร้อมกับการพังทลายของเมือง หลังจากเกิดแผ่นดินไหวหลายครั้งจนสูญหายนับพันปี จวบจนในปี ค.ศ. 1812 นักสำรวจเส้นทางชาวสวิส นาย โจฮันน์ ลุดวิก เบิร์กฮาดท์ ได้ค้นพบนครศิลาแห่งนี้ และนำไปเขียนในหนังสือชื่อ “TRAVEL IN SYRIA” จนทำให้เริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน
การเดินทางเข้าสู่ มหานครเพตรา เราจะนั่งม้าเข้าไปประมาณ 800 เมตรร รวมในราคาทัวร์ โปรดแจ้งหากท่านไม่ต้องการนั่งตาไม่สามารถคืนได้ ผู้ที่สนใจโปรดแจ้งหน้าหัวหน้าทัวร์ โดยจ่ายค่าทิปคนจูงม้า 5 USD ต่อท่าน
พาท่านเดินบนถนนทรายเพื่อตรงเข้าสู่หน้าเมือง พร้อมชมทัศนียภาพรอบข้างที่เป็นภูเขาทั้งสองฝั่ง ลงจากม้า ....จากนั้นนำท่านเดินเท้าเข้าสู่ ถนนเข้าเมือง SIQ เส้นทางมหัศจรรย์กว่า 1.2 กิโลเมตรที่เกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลกและการซัดเซาะของน้ำเมื่อหลายล้านปีก่อน เดินชมความสวยงามของผาหินสีชมพูสูงชันทั้ง 2 ข้างคล้ายกับแคนยอน น้อย ๆ และ สิ่งก่อสร้าง รูปปั้นแกะสลัก ต่างๆ เช่น รูปปั้นเทพเจ้าต่างๆ, รูปกองคาราวานอูฐ, รูปชาวนาบาเทียน, ท่อส่งลำเลียงน้ำเข้าสู่เมือง ฯลฯ สุดปลายทางของช่องเขาพบกับความสวยงามของ
มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล-คาซเนท์ ( AL-KHAZNEH / TREASURY) สันนิษฐานว่าจะสร้างในราวศตวรรษที่1-2 โดยผู้ปกครองเมืองในเวลานั้น เป็นวิหารที่แกะสลักโดยเจาะเข้าไปในภูเขาสีชมพูทั้งลูก มีความสูง 40 เมตร และมีความกว้าง 28 เมตร วิหารแห่งนี้ออกแบบโดยได้รับอิทธิพลศิลปะของหลายชาติเข้าด้วยกัน เช่น อิยิปต์, กรีก, นาบาเทียน ฯลฯ ภายในประกอบด้วย 3 ห้อง คือ ห้องโถงใหญ่ตรงกลาง และ ห้องเล็กทางด้านซ้ายและขวาเดิมทีถูกเชื่อว่าเป็นที่เก็บขุมทรัพย์สมบัติของฟาโรห์อิยิปต์ แต่ภายหลังได้มีการขุดพบทางเข้าหลุมฝังศพที่หน้าวิหารแห่งนี้ ทำให้นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีได้ลงความเห็นตรงกันว่า น่าจะสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับผู้ปกครองเมือง, ใช้เป็นสถานที่ทำพิธีกรรมทางศาสนา และเป็นสุสานฝังศพของผู้ปกครองเมืองและเครือญาติ เดิมชมสุสานต่างๆ ของชาวนาบาเทียน, สุสานกษัตริย์ ฯลฯ ชมโรงละครโรมัน (ROMAN THEATRE) ที่แกะสลักจากภูเขาโดยมีแนวราบที่นั่งเท่ากันและมีความสมดุลย์ได้อย่างน่าทึ่ง สันนิษฐานเดิมทีสร้างโดยชาวนาบาเทียน ต่อมาในสมัยที่โรมันเข้ามาปกครอง ได้ต่อเติมและสร้างเพิ่มเติม มีที่นั่ง 32 แถว จุผู้ชมได้ประมาณ 3,000
หมายเหตุ: ในวนอุทยาน หากท่านต้องการ ขี่ลา 15-20 USD/ท่าน, ขี่อูฐ 10 USD ราคาแล้วแต่ความสามารถในการต่อรอง สำหรับรถม้าเหมาไปกับ 45 JD นั่งได้ 2 ท่านต่อรองไม่ได้
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย อิสระเก็บภาพแห่งความประทับโดยรอบเพตรา หรือเดินข้างเขาเพื่อไปท้ายเมืองเพตรา หรือเดินเท้าขึ้นบันใดหิน ประมาณ 800 (หรือจ้างลา ขึ้นประมาณ 20-25 USD ขึ้นอยู่กับทักษะการเจรจาต่อรอง) เส้นทางที่เดินตามง่ายจากร้านอาหารไปยังอารามใช้เวลาประมาณ 40 นาที ขึ้นสู่ MONASTERY PETRA อารามหรือที่ประชุมลับของกษัตร์ยหรือผู้นำเมืองในสมัยก่อนอารามแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่บนเนินเขาสูง เป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานในตำนานของเพตรา การออกแบบคล้ายกับ Treasury แต่ใหญ่กว่ามาก (กว้าง 50 ม. และสูง 45 ม.) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตศักราชเพื่อเป็นสุสาน Nabataean ชื่อนี้ได้มาจากไม้กางเขนที่สลักไว้บนผนังด้านใน ซึ่งบ่งบอกถึงการใช้เป็นโบสถ์ในสมัยไบแซนไทน์ เส้นทางหินตัดโบราณกว่า 800 ขั้นเริ่มต้นจากร้านอาหารลุ่มน้ำและไปตามเส้นทางขบวนเก่า
เส้นทางเดินตามเส้นทางขบวนแห่แบบเก่าและเป็นภาพที่น่าตื่นตาด้วยบันไดที่สึกกร่อนที่ดึงออกมาจากหินที่แปลกประหลาดและทรมานอย่างน่าอัศจรรย์ มีเส้นทางเดินสำรวจหลายทาง รวมทั้งทางอ้อมไปยังสุสานสิงโต,ตั้งอยู่ในห้วย. สิงโตที่ถูกทุบตีจากสภาพอากาศสองตัวซึ่งให้ชื่อหลุมฝังศพมาเผชิญหน้ากันที่ฐานของอนุสาวรีย์ แนะนำ...ควรเดินลงมาดีกว่าเพราะลาเดินทางเร็วและทางสูงชันและลื่น ทำให้การเดินทางไม่สะดวก
17.00 น. พาท่านกลับเข้าสู่ที่พัก
19.00 น. รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารในโรงแรม
เข้าพักโรงแรมระดับสี่ดาวมาตรฐานท้องถิ่น Petra Castle Hotel หรือเทียบเท่า
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม – และเช็คเอ้าท์
08.00 น. ท่านเดินทางสู่เมือง เมืองอคาบา (Aqaba) เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เมืองท่าและเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่สำคัญของประ เทศจอร์แดน เป็นเมืองแห่งเดียวของประเทศจอร์แดนที่ถูกประกาศให้เป็นเมืองปลอดภาษี นำท่านลงเรือดำน้ำ (Submarine) แล่นในทะเลแดง ทะเลที่มีน่านน้ำครอบคลุมถึง 4 ประเทศ คือ ประเทศจอร์แดน, อิสราเอล, อิยิปต์ และ ซาอุดิอาระเบีย ชมความใสของน้ำทะเล, ปะการัง, ปลาทะเลหลากชนิด ฯลฯ
เที่ยง รับประทานอาหารบนเรือ (seafood)
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ ทะเลทรายวาดิรัม (WADI RUM) ทะเลทรายแห่งนี้ในอดีตเป็นเส้นทางคาราวานจากประเทศ ซาอุฯ เดินทางไปยังประเทศซีเรียและปาเสลไตน์ ในศึกสงครามอาหรับรีโวลท์ระหว่างปี ค.ศ. 1916-1918 ทะเลทราย แห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นฐานบัญชาการในการรบของนายทหารชาวอังกฤษ ทีอี ลอว์เรนซ์ และเจ้าชาย ไฟซาล ผู้นำแห่งชาวอาหรับร่วมรบกันขับไล่พวกออตโตมันที่เข้ามารุกรานเพื่อครอบครองดินแดน และต่อมาเป็นสถานที่จริงในการถ่ายทำภาพยนต์ฮอลลีวูดอันยิ่งใหญ่ในอดีตเรื่อง “LAWRENCE OF ARABIA” นำท่านนั่งรถกระบะเปิดหลังคารับบรรยากาศท้องทะเลทรายวาดิรัมที่ถูกกล่าวขานว่าสวยงามที่สุดของโลกแห่งหนี่ง ด้วยเม็ดทรายละเอียดสีส้มอมแดงอันเงียบสงบที่กว้างใหญ่ไพศาล ชมสถานที่ในอดีตนายทหาร ทีอี ลอว์เรนซ์ ทหารชาวอังกฤษใช้เป็นสถานที่พัก และคิดแผนการสู้รบกันพวกออตโตมัน
นำท่านท่องทะเลทรายต่อไปยังภูเขาคาซารี ชมภาพเขียนแกะสลักก่อน ประวัติศาสตร์ ที่เป็นภาพแกะสลักของชาวนาบาเทียนที่แสดงถึงเรื่องราวในชีวิตประจำวันต่างๆ และรูปภาพต่าง ๆ ผ่านชมเต้นท์ชาวเบดูอินที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย เลี้ยงแพะเป็นอาชีพ ฯลฯ (เป็นธรรมเนียมปฏิบัติในการให้ทิปท่านละ 1 USD แก่คนขับรถ)
19.30 น. รับประทานอาหาร ในแค้มป์กลางทะเลทราย แบบท้องถิ่นของชนเผ่าเบดูอิน
เข้าพักแค้มป์กลางทะเลทราย LUXURY RUM MAGIC CAMP, BUBBLE TENT หรือเทียบเท่า
เช้าตรู่กิจกรรมขี่อูฐชมพระอาทิตย์ขึ้นบนสันทราย วาดิรัม 30 USD ต่อท่าน ประมาณ 1 ชม (ไม่รวมในราคาทัวร์)
07.30 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม – และเช็คเอ้าท์
อิสระเก็บภาพแห่งความประทับใจบริเวณโดยรอบแค้มป์กลางทะเลทรายวาดิรัม
08.30 น. นำท่านเดินทางสู่ เดดซี ทะเลเดดซี (ใช้เวลาประมาณ 4-5 ช.ม) ทะเลเดดซีตั้งอยู่ตรงเขตแดนประเทศจอร์แดนและอิสราเอล กำเนิดมาจากแม่น้ำจอร์แดนเป็นสายหลักไหลมายังพื้นที่ของทะเลเดดซีนี้ และด้วยความที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลอื่นอีกน้ำในทะเลเดดซีจึงระเหยออกไปเองด้วยอุณหภูมิอันร้อนระอุในบริเวณนั้นแถมฝนตกน้อยด้วยแล้วก็เติมขึ้นมาใหม่จากแม่น้ำจอร์แดนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุอย่างโซเดียมหรือแมกนีเซียม ทะเลเดดซี เป็นจุดที่ต่ำที่สุดในโลก มีความต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 400 เมตร และ มีความเค็มที่สุดในโลกมากกว่า 20% ของน้ำทะเลทั่วไป ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเลยอาศัยอยู่ได้ในท้องทะเลแห่งนี้ อีกทั้งเดดซีเป็นจุดต่ำ ที่สุดใน โลกจึงทำให้บริเวณนี้มีอ็อกซิเจนและอากาศสดชื่นถึงเมืองเดดซี ..นำท่านเข้าสู่ที่พัก
เที่ยง รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารในโรงแรมที่พัก บุฟเฟ่ต์
บ่าย ที่พักของโรงแรม มีหาดส่วนตัวสามารถเดินลงหาดได้เลยหรือจะใช้บริการรถรับ-ส่ง ของโรงแรม ให้ท่านได้เข้าห้องพัก เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อลงเล่นน้ำเดดซี ใช้เวลาตามอัธยาศัย และสามารถลงอีกรอบตอนเช้าได้ เพื่อสุขภาพผิวอุดมด้วยแร่ธาตุ หรือจะอิสระว่ายน้ำในสระว่ายน้ำของโรงแรม วิธีการหมักโคลน – ลงแช่ใน Dead Sea ประมาณ 10 นาที – ขึ้นมาทาโคลนให้ทั่วตัว – ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที หรือจนโคลนแห้ง – กลับลงล้างตัวใน Dead Sea.
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารในโรงแรมที่พัก บุฟเฟย์
เข้าพักโรงแรมในเมืองเดดซี Hotel Ramada dead sea หรือเทียบเท่า
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
อิสระ..ตอนเช้าอากาศดีมาก ลงแช่น้ำในทะเลเดดซี หมักโคลน หรือจะอิสระว่ายน้ำในสระว่ายน้ำของโรงแรม เพื่อสุขภาพผิวอุดมด้วยแร่ธาตุ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมาท์ เนโบ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนเขาซึ่งเชื่อกันว่าน่าจะเป็นบริเวณที่เสียชีวิตและฝังศพของโมเสส ชมพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม ภายในเก็บสิ่งของต่างๆที่ขุดพบภายในบริเวณนี้ ชมอนุสรณ์ไม้เท้าศักดิ์สิทธ์แห่งโมเสส ลักษณะเป็นไม้เท้าในรูปแบบไม้กางเขน โดยอุทิศเป็นสัญลักษณ์ของโมเสส และพระเยซู ชมและถ่ายรูปจุดชมวิว
นำท่านเดินทางสู่เมือง มาดาบา หรือเมืองแห่งโมเสด เข้าชม โบสถ์กรีก-ออโธดอกซ์แห่งเซนต์จอร์จ สร้างขึ้นช่วงระหว่างศตวรรษที่ 6 ในยุคของไบแซนไทน์ ชม ภาพแผนที่ดินแดนศักดิสิทธิ์แห่งเยรูซาเลม ที่อยู่บนพื้นโบสถ์แห่งนี้ และถูกตกแต่งโดยโมเสดสี ประมาณ 2.3 ล้านชิ้นแสดงถึงพื้นที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เช่น เยรูซาเลม, จอร์แดน, ทะเลเดดซี, อียิปต์ ฯลฯ
เที่ยง รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเข้าสู่ นำท่านชมเมืองหลวงอัมมาน ตั้งอยู่บนภูเขาทั้ง 7 ลูก และมีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนานกว่า 6,000 ปี ขึ้นชม ป้อมปราการ แห่งกรุงอัมมาน (CITDAEL) ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุบ้าน การเมืองต่างๆรอบเมือง เชิญอิสระถ่ายรูปตรงจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองแห่งนี้ โดยมีฉากหลังเป็น โรงละครโรมัน ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจอร์แดน จุผู้ชมได้ 6,000 คน และตึกรามบ้านช่องที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง อันแปลกตายิ่งนัก ชม วิหารเฮอร์คิวลิส ที่สันนิษฐานว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 161–180 ในสมัยโรมัน พระราชวังเก่าอุมเมยาด สร้างขึ้นในประมาณปี ค.ศ. 720 โดยผู้นำชาวมุสลิมของราชวงศ์ ในสมัยมุสลิมได้เข้ามาปกครองประเทศจอร์แดน ซึ่งภายในประกอบห้องทำงาน, ห้องรับแขก ฯลฯ ให้ท่านใช้เวลาอิสระในการช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าพัก Olive Tree Amman Hotel หรือเทียบเท่า
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. นำท่านชม นครเจอราช (JERASH) หรือ “เมืองพันเสา” เป็นอดีต 1 ใน 10 หัว เมืองเอกตะวันออกอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน สันนิษฐานว่าเมืองนี้น่าจะถูกสร้างในราว 100 – 200 ปีก่อนคริสตกาล นครแห่งนี้ได้ถูกทำลายโดยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และถูกทรายฝังกลบจนสูญหายไปเป็นนับพันปี ชม ซุ้มประตูกษัตริย์เฮเดรียน และ สนามแข่งม้าฮิปโปโดรม นำท่านเดินเข้าประตูทางทิศใต้ ชม โอวัลพลาซ่า สถานที่ชุมนุม พบปะ สังสรรค์ของชาวเมือง, วิหารเทพซีอุส ฯลฯ โรงละครทางทิศใต้ (สร้างในราวปี ค.ศ. 90-92 จุผู้ชมได้ถึง 3,000 คน) ชม วิหารเทพีอาร์เทมิส เป็นเทพีประจำเมืองเจอราช สร้างในราวปี ค.ศ. 150 สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับทำพิธีบวงสรวง และบูชายัญต่อเทพีองค์นี้ นำท่านเดินเข้าสู่ ถนนคาร์โด หรือ ถนนโคลอนเนด ถนนสายหลักเข้าเมือง
เที่ยง รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านไป ช้อปปิ้ง เลือกซื้อของฝากก่อนเดินทางกลับ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน…นำท่านเดินทางสู่สนามบินอัมมาน
02.15 น. ออกเดินทางกลับสู่ประเทศไทย ด้วยสายการบิน โรยัลจอร์แดนเนียล เที่ยวบินที่ RJ 182
14.25 น. เดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความสวิสดิภาพและความประทับใจ
-วงเงินคุ้มครอง 1,000,000 บาท /คน
-ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท
-ค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่องในประเทศไทย 50,000 บาท
-ค่ารักษาพยาบาทครั้งแรกในประเทศไทย 100,000 บาท
****กรณีการรักษาพยาบาทต่อเนื่องในประเทศไทยผู้เอาประก้นภัยต้องขอรับการรักษาพยาบาทในประเทศไทยภายใน 24 ชั่งโมงนับจากวันที่เดินทางกลับถึงประเทศไทย และ รับการรักษาต่อเนื่องไม่เกิน 7 วันนับจากวันที่ได้รับการรักษาครั้งแรกในประเทศไทย
****กรณีที่ผู้เอาประกันได้รับการรักษาพยาบาทที่ต่างประเทศผู้เอาประกันมีกำหนดเวลา 7วันนับจากวันที่เดินทางกลับถึงประเทศไทยที่จะรับการรักษาต่อเนื่องในประเทศไทย
หมายเหตุ : คุ้มครองผู้เอาประกันภัยอายุสูงกว่า 75-85 ปี จ่ายเบี้ย 50 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย วงเงินคุ้มครองอาหารเป็นพิษ (โดยแพทย์จะต้องระบุในใบรับรองแพทย์ว่า อาหารเป็นพิษเท่านั้น) แต่ทั้งนี้ย่อมอยู่ในข้อจำกัดที่มีการตกลงไว้กับบริษัทประกันชีวิต
****ทิปหัวหน้าทัวร์ไทยแล้วแต่ความพึงพอใจในบริการของท่าน บริษัทฯมิได้มีผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของท่านเพื่อเป็นกำลังใจให้กับหัวหน้าทัวร์ที่บริการท่าน***
เงื่อนไขการเดินทาง
บริษัทฯ ถือว่าท่านได้อ่านและยอมรับเงื่อนไขต่างๆในโปรแกรมทัวร์ดีแล้วจึงชำระเงินมัดจำ
123 หมู่ 19 ตำบลบุ่ง อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ